วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

ขายอาหารได้เท่าไหร่ จะต้องเสียภาษี?

วันนี้ สถาบันคัสเม่ จะพาทุกท่านมาคำนวณหา "ยอดขาย" ที่เข้าข่ายเตรียมจ่ายภาษี

ทั้งนี้ สิ่งแรกที่ควรทำความเข้าใจก่อน ก็คือ

เมื่อไหร่ก็ตาม ที่เรามี เงินได้สุทธิ จากการขายอาหารต่ำกว่า 150,000 บาท ต่อปี ไม่ต้องเสียภาษี
หรืออีกนัยยะหนึ่ง ถ้ามีเงินได้สุทธิ เกินกว่า 150,000 บาทต่อปี ก็ต้องเสียภาษีนั่นเอง!

แล้วเงินได้สุทธิ คำนวณได้อย่างไร

เงินได้สุทธิ = เงินได้พึงประเมิน - ค่าใช้จ่าย - ค่าลดหย่อน
[เก็บสมการนี้ไว้ในใจ แล้วเดี๋ยวเราจะมาหาค่า "เงินได้พึงประเมิน" หรือ ยอดขายที่ต้องเสียภาษี ย้อนกลับกัน]

สำหรับเงินได้พึงประเมินจากการขายอาหาร ถือว่าเข้าข่ายเป็นเงินได้พึงประเมินประเภทที่ 8
ซึ่งกรมสรรพากร อนุญาตให้เลือกหักค่าใช้จ่ายได้ 2 วิธี คือ

หักแบบเหมา หรือ หักตามจริง

ซึ่งโดยทั่วไป วิธีคิดอย่างง่ายและยื่นภาษีได้สะดวก ใช้เอกสารไม่มาก คือการหักค่าใช้จ่ายแบบเหมา
โดยกรมสรรพากรกำหนดให้หักค่าใช้จ่ายได้ 60% จากรายได้การทำอาหารขาย

ค่าใช้จ่าย = 60% x เงินได้พึงประเมิน

สำหรับค่าลดหย่อน จะขึ้นอยู่ในแต่ละบุคคล  ซึ่งค่าลดหย่อนพื้นฐานก็คือ
ค่าลดหย่อนส่วนตัว = 60,000 บาท
และกรณีมีค่าลดหย่อนอื่นๆ ก็สามารถคำนวณปรับเพิ่มได้

คราวนี้ ลองนำสมการที่ตั้งไว้ในใจ นำตัวเลขที่ไฮไล้ท์มาใส่ และเซ็ตค่า "เงินได้พึงประเมิน" หรือ "ยอดขายที่ต้องเสียภาษี" ให้เป็น X

เงินได้สุทธิ = 150,000
เงินได้พึงประเมิน = X
ค่าใช้จ่าย = 60%
ค่าลดหย่อน = 60,000

[เงินได้สุทธิ = เงินได้พึงประเมิน - ค่าใช้จ่าย - ค่าลดหย่อน]
150,000 = X - 0.6 - 60,000
X = 525,000 บาท

สรุป ยอดขายจากการขายอาหารเกินกว่า 525,000 บาทต่อปี ต้องเสียภาษีนะจ๊ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก ลงทุนศาสตร์


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น