สรรพากรกุมขมับกับแผนปรับโครงสร้างภาษีชุดใหญ่สนองภาครัฐ
#แหล่งข่าวอ้างอิง: sanook.com
สรรพากรถึงขั้นกุมขมับ เมื่อรับแผนจาก นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สำหรับการศึกษาความเป็นไปได้ เพื่อเตรียมปรับโครงสร้างภาษีชุดใหญ่ สนองนโยบายการปฏิรูปภาษีที่พรรคพลังประชารัฐเคยหาเสียงไว้ เช่น
>> การลดภาษีผู้ค้าออนไลน 2 ปี
>> ยกเว้นการจัดเก็บภาษีเด็กจบใหม่ 5 ปี
>> การลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 10%
โดยอยู่ภายใต้เงื่อนไขไม่ให้ส่งผลกระทบต่อฐานะการคลัง ซึ่งมีการประชุมนัดแรกในวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา
โดยทั้งนี้ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร ได้กล่าวถึงกรณีลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 10% นั้นเป็นเรื่องที่ตอบยากมาก และยังไม่ชัดเจนว่าจะคิดจากฐานอะไร
ซึ่งการลดภาษีจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังอย่างแน่นอน และยังสร้างความเหลื่อมล้ำให้เพิ่มขึ้นอีกด้วย
ซึ่งอ้างอิงจากข้อมูลปัจจุบัน พบว่า มีผู้ยื่นแบบเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประมาณ 10.7 ล้านคน และในจำนวนนี้ มีเพียง 4 ล้านคนเท่านั้นซึ่งในส่วนนี้เป็นคนที่มีรายได้สูงสุดของประเทศ โดยคิดเป็น 3% ของรายได้จากภาษีบุคคลธรรมดา 72% ที่เก็บได้ปีละ 4 แสนล้านบาท หรือ 17% ของรายได้ทั้งหมด
โดยการจัดเก็บภาษีในช่วงเดือน ตุลาคม 61 - กรกฎาคม 62 (10 เดือนของปีงบประมาณ 2562) กรมสรรพากร จัดเก็บภาษีได้เกินเป้า 4.8 หมื่นล้านบาท แต่เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกผันผวน จึงได้สั่งการให้กรมสรรพากรวางแผนการจัดเก็บภาษีในปีงบประมาณ 2563 ที่วงเงิน 2.11 ล้านล้านบาท
"เพื่อให้ประเทศมีเงินเพียงพอที่จะรองรับการลงทุน"
และยังได้สั่งการให้กรมสรรพากรเดินหน้า จัดเก็บภาษี-บิสสิเนส ซึ่งกระทรวงการคลังพร้อมสนับสนุนเดินหน้ากฏหมายดังกล่าว เพราะจะส่งผลดีต่อการจัดเก็บรายได้ของประเทศ ช่วยขยายฐานภาษีให้มากขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น