ข้อแนะนำการหักค่าเสื่อมและอัตราที่ใช้ในการคำนวณ
อ้างอิงจาก: กรมสรรพากร และพระราชกฤษฎีกา
ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยหักค่าสึกหรอ และค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สิน (ฉบับที่ 145) พ.ศ.2527
ค่าเสื่อมราคาคืออะไร ?
ค่าเสื่อมราคา = "ค่าใช้จ่าย"ที่เกิดจากการคำนวณจากมูลค่าของสินทรัพย์ที่ซื้อมาใช้ในกิจการ และนำมาหักเป็นค่าใช้จ่ายประจำงวด
การนำค่าเสื่อมราคามาหักเป็นค่าใช้จ่ายในทางบัญชีภาษีอากร มีวิธีปฏิบัติไม่ตรงกับการหักค่าใช้จ่ายในทางบัญชีมาตรฐานทั่วไป จึงมักทำให้เกิดความผิดพลาดหรือความเข้าใจคลาดเคลื่อนในการคำนวณค่าใช้จ่าย เพื่อคำนวณกำไรสุทธิทางภาษีเสมอ
ข้อแนะนำในการหักค่าเสื่อมราคา
ควรแยกประเภททรัพย์สินที่จะนำมาหักค่าเสื่อมราคาได้
และประเภทที่หักค่าเสื่อมราคาไม่ได้ ออกจากกัน
เพื่อประโยชน์ในการนำไปถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรหรือขาดทุนสุทธิ
ทรัพย์สินที่สามารถหักค่าเสื่อมราคาได้
ทรัพย์สินถาวรทั่วไปที่โดยสภาพของทรัพย์สินอาจเสื่อมราคาได้
ไม่ว่าทรัพย์สินนั้นจะมีรูปร่างตัวตนหรือไม่
>>อาคาร อาคารถาวร
อาคารชั่วคราว
>>ต้นทุนเพื่อการได้มาซึ่งแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่สูญสิ้นไปได้
>>ต้นทุนเพื่อการได้มาซึ่งสิทธิการเช่า
เช่น เงินกินเปล่า เงินช่วยค่าก่อสร้างค่าแห่งอาคาร
หรือโรงเรือนที่ได้โอนเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าของที่ดินเมื่อสร้างเสร็จ
ซึ่งตอบแทนสิทธิการเช่าอันมีระยะเวลา
>>ต้นทุนเพื่อการได้มาซึ่งสิทธิในกรรมวิธี
สูตร กู๊ดวิลล์ เครื่องหมายการค้า สิทธิบัตร สิทธิประกอบกิจการตามใบอนุญาต
ลิขสิทธิ์ หรือสิทธิอย่างอื่น
>>ทรัพย์สินอย่างอื่น
เช่น รถยนต์ เครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องใช้สำนักงาน เครื่องตกแต่งสำนักงาน
เป็นต้น
ทรัพย์สินที่ไม่สามารถหักค่าเสื่อมราคาได้
ทรัพย์สินถาวรทั่วไปที่โดยสภาพของทรัพย์ไม่อาจเสื่อมราคาได้ เช่น
>>ที่ดิน
>>เพชร พลอย อัญมณี
แร่ธาตุ
>>ทรัพย์สินถาวร
“ที่ยังไม่พร้อมจะใช้งาน” เช่น อาคารระหว่างก่อสร้าง เครื่องจักรระหว่างติดตั้ง
อัตราหักต่างกัน ควรแยกออกจากกัน
ควรแยกประเภททรัพย์สินที่สามารถหักค่าเสื่อมราคาได้ในอัตราที่แตกต่างกันออกจากกัน
>>อาคารและอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆในอาคาร
เช่น อุปกรณ์ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ เครื่องปรับอากาศ = กฏหมายกำหนดให้หักค่าเสื่อมราคาได้ร้อยละ 20 ของมูลค่าต้นทุน
>>ตัวอาคาร = หักค่าเสื่อมราคาในอัตราต่ำเพียงไม่เกินร้อยละ
5 ของมูลค่าต้นทุน
เลือกวิธีในการหักค่าเสื่อมราคา
เลือกใช้วิธีการทางบัญชี เพื่อการหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคา ให้ได้สอดคล้อง
กับสภาพการใช้ทรัพย์สินและอำนวยประโยชน์แก่กิจการได้สูงสุด
บริษัท หรือ ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
อาจเลือกใช้วิธีการทางบัญชีในการหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สิน
ตามวิธีใดก็ได้ แต่เมื่อเลือกใช้วิธีการและอัตราที่จะหักวิธีใดแล้ว
ต้องใช้วิธีการและอัตรานั้นตลอดไป
จะเปลี่ยนแปลงได้ ก็ต่อเมื่อได้รับอนุมัติจากอธิบดีกรมสรรพากร
หรือผู้ที่อธิบดีกรมสรรพากรมอบหมาย และ ในกรณีที่ได้รับอนุมัติให้เปลี่ยนแปลงได้
ก็ให้ถือปฏิบัติตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชีที่ได้รับอนุมัตินั้น
สำหรับทรัพย์สินประเภทและชนิดเดียวกันที่กิจการได้มาใหม่
จะเลือกวิธีการและอัตราให้แตกต่างไปจากที่เคยใช้อยู่เดิม ก็สามารถทำได้
โดยไม่ต้องยื่นคำขอต่ออธิบดีกรมสรรพากรแต่อย่างใด (แต่ควรเปิดเผยไว้ในงบการเงิน)
อัตราการหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สิน
การหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สิน
คำนวณหักตามระยะเวลาที่ได้ทรัพย์สินนั้นมาในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชี
ในกรณีที่รอบระยะเวลาใดไม่เต็ม 12 เดือน ให้เฉลี่ยตามส่วนสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีนั้น ทั้งนี้
ไม่เกินอัตราร้อยละของมูลค่าต้นทุนตามประเภทของทรัพย์สิน ดังต่อไปนี้
กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาโดยใช้วิธีการทางบัญชีที่รับรองทั่วไป
ซึ่งมีอัตราการหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาไม่เท่ากันในแต่ละปีระหว่างอายุการใช้ทรัพย์สิน
บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นจะหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาตามวิธีนั้นในบางปีเกินอัตราที่กำหนดข้างต้นก็ได้
แต่จำนวนปีอายุการใช้ของทรัพย์สินเพื่อการหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาต้องไม่น้อยกว่า
100 หารด้วยจำนวนร้อยละที่กำหนดข้างต้น
(ดูคำสั่งกรมสรรพากรที่
ป.3/2527)
“การหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สินอย่างอื่นตามความในวรรคหนึ่ง (5) ซึ่งมิใช่รถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกินสิบคนหรือรถยนต์นั่ง
บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลจะใช้วิธีการทางบัญชีที่รับรองทั่วไป
ซึ่งมีอัตราการหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาในปีแรกเป็นสองเท่าของอัตราที่กำหนดตามวรรคหนึ่ง
และสำหรับปีถัดไปให้หักตามอัตราสองเท่าดังกล่าวโดยคำนวณจากมูลค่าต้นทุนส่วนที่เหลือในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชีก็ได้
แต่จำนวนปีอายุการใช้ของทรัพย์สินเพื่อการหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาต้องไม่น้อยกว่า
100 หารด้วยจำนวนร้อยละที่กำหนดตามวรรคหนึ่ง ทั้งนี้ ในรอบระยะเวลาบัญชีสุดท้ายของอายุการใช้ของทรัพย์สินดังกล่าว
บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลจะหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาโดยรวมจำนวนมูลค่าต้นทุนส่วนที่เหลืออยู่ทั้งหมดด้วยก็ได้”
(แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกา
(ฉบับที่359) พ.ศ. 2542 ใช้บังคับ 23 ตุลาคม 2542
เป็นต้นไป โดยมิให้ใช้บังคับสำหรับทรัพย์สินที่ได้มาก่อนวันที่พระราชกฤษฎีกานี้มีผลใช้บังคับ)
ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับ พระราชกฤษฎีกา
ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยหักค่าสึกหรอ และค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สิน (ฉบับที่ 145) พ.ศ.2527
ได้ทาง http://www.rd.go.th/publish/2369.0.html
สถาบันคัสเม่ "หน้าต่างแห่งความรู้ ประตูสู่ความสำเร็จ"
www.kasmethai.com สถาบันฝึกอบรมแห่งแรกในจังหวัดระยอง
FB: facebook/kasmeco
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น